หลวงปู่หลุย จันทสาโร เมื่อพรรษาที่ 32 ท่านได้เดินทางมาปฏิบัติภาวนาที่
”ภูบักบิด” ซึ่งเป็นภูเขาเล็กๆ
ห่างจากตัวจังหวัดเลยไม่มากนัก เป็นภูเขาซึ่งอยู่เหนือฟากฝั่งของแม่น้ำ โดยมีตัวเมืองเลยอยู่ฟากฝั่งตรงกันข้าม เนื่องจากบนภูบักบิดเป็นป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์
ไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า สภาพธรรมชาติ จึงสงบวิเวก
เป็นสัปปายะสำหรับพระธุดงคกรรมฐาน
ในคืนแรกที่หลวงปู่หลุยนั่งภาวนาบนแท่นหินหน้าถ้ำ
จิตรวมนิ่งสนิทอย่างรวดเร็ว ปรากฏการณ์ซึ่งหลวงปู่ไม่เคยคาดคิดก็เกิดขึ้น มีมือใหญ่มหึมา
ขนยาวรุงรังยื่นออกมานอกถ้ำ มือนั้นชูร่อนไปมา ไม่ว่าหลวงปู่จะหลับตาหรือว่าลืมตาก็มองเห็น
ท่านจึงกำหนดจิตถามไปว่า เจ้าของมือนั้น ปรารถนาอะไร จนทราบว่า
เป็นเปรตมาขอส่วนบุญ หลวงปู่จึงแผ่เมตตาให้ นับแต่นั้น
เปรตก็หายไปไม่มารบกวนท่านอีก
คืนต่อๆ มา หลวงปู่หลุยได้เผชิญกับสิ่งลึกลับซึ่งท่านต้องยอมรับ
ว่ามีอยู่จริง นั่นคือ “พญานาค”
หลวงปู่หลุยเผชิญกับพญานาคขณะมี่ท่านกำลังนั่งภาวนาอยู่
พญานาคตนนี้ ไม่ยอมรับนับถือพระพุทธศาสนาอยู่ก่อนแล้ว
เมื่อหลวงปู่มาบำเพ็ญภาวนาในเขตของตน จึงแสดงฤทธิ์ปรากฏกายลองดีกับท่าน
โดยใช้ส่วนหางพันรอบกายทานหลายรอบแล้วรัดแน่น หลวงปู่ท่านตั้งสติไม่ทัน ทำให้ตกใจ หลวกปู่บอกว่า
อึดอัดมาก ที่จริงหลวงปู่เคยมีประสบการณ์เรื่องพญานาคมา
เหมือนกัน แต่ไม่เคยพบถึงขั้นเข้ามารัดตัวแบบนี้
จึงทำให้ท่านอดสะดุ้งหวั่นไหวไม่ได้ แต่เมื่อตั้งสติได้ ก็กำหนดจิต เอา “พุทโธ” เป่าเข้าไป ลำตัวของพญานาคที่รัดตัวท่านก็คลายออกอย่างรวดเร็ว
กระทั่งหายวับไป
แม้หลวงปู่หลุยจะเผชิญกับความน่ากลัวของพญานาคถึงปาน
นี้ ท่านก็ไม่ยอมหนีไปจากถ้ำภูบักบิด คงบำเพ็ญภาวนาต่อไปด้วยความมั่นคงแน่วแน่
พร้อมกันนั้นก็ได้แผ่เมตตาไปให้พญานาคตนนั้นโดยตลอด จนจิตของพญานาคอ่อนลง
ยอมรับนับถือท่านและกลายเป็นมิตรที่ดีของท่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น